เบื่อมั้ยกับการทำ Targeting ในโฆษณา Facebook แต่ทำยังไง๊ ยังไงก็ยิงไม่โดนเป้าสักที
กลายเป็นว่ายอด Reach เยอะแยะแต่ยอดขายหดหายซะงั้น
วันนี้ Digital Marketing Thailand เลยไปหาเทคนิคดีๆ ในการกำหนดกลุ่มเป้าหมาย
มาให้ผู้ประกอบธุรกิจออนไลน์ทุกท่านได้เอาไปปรับใช้กัน เลื่อนลงไปดูข้างล่างเลย!
1.กำหนดกลุ่มเป้าหมายของเราให้แคบที่สุดเท่าที่จะทำได้
สาเหตุหลักที่ยังขายของไม่ได้ทั้งที่ลง Ad ไปก็เยอะ เป็นเพราะคนที่เห็น Ad นั้นไม่ได้ต้องการสินค้าของคุณจริงๆ
พอจะนึกภาพออกมั้ยครับ ประมาณว่าสนใจนะแต่ไม่ได้อยากจ่ายเพื่อให้ได้มา
ดังนั้นเราจึงต้องแก้ปัญหาโดยการ Scope กลุ่มเป้าหมายลงมาให้แคบที่สุด
เพื่อให้แน่ใจว่าคนที่เห็น Ad ของคุณเป็นกลุ่มที่ต้องการสินค้าของคุณจริงๆ
ชนิดที่ว่าไม่ใช่แค่ชอบ แต่ต้องอยากได้ด้วย
อย่างเช่น ถ้าคุณเปิดร้านอาหารญี่ปุ่นประเภทซูชิเกรด Premium ในกรุงเทพ
กลุ่มเป้าหมายของคุณจะต้องอาศัยอยู่ในกรุงเทพ เป็นวัยทำงาน และชอบทานซูชิ
คุณไม่ควร set ค่า interest ของกลุ่มเป้าหมายให้อยู่แค่อาหารญี่ปุ่น
เพราะอาหารญี่ปุ่นนั้นมีเป็นร้อยๆ อย่าง คุณจะไม่รู้เลยว่าคนกลุ่มนี้ชอบอาหารญี่ป่นประเภทไหน
จะดีกว่ามั้ยถ้าคุณ Scope ให้แคบลงโดยพุ่งเป้าไปที่ซูชิ
และถ้าหากซูชิของคุณโดดเด่นเรื่องเนื้อแซลมอนสด ก็เลือกความสนใจที่เกี่ยวกับซูชิหน้าแซลมอนด้วยก็ได้
ในขณะเดียวกัน อย่างที่บอกไปว่ากลุ่มเป้าหมายของคุณควรจะอยู่ที่วัยทำงาน
นั่นก็เพราะว่าคนกลุ่มนี้มีกำลังทรัพย์มากพอที่จะจ่ายมากกว่าวัยเรียนนั่นเอง
พยายามบีบ Target เข้ามาให้แคบที่สุดเท่าที่จะทำได้ครับ มองหาคนที่อยากได้สินค้าของคุณจริงๆ
นอกจากจะช่วยให้ข้อมูลพุ่งไปตรงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้นแล้ว ยังช่วยประหยัดงบทำ Ad อีกด้วย
2.ทำ Test ประกอบการตัดสินใจ
หลายครั้งที่คุณมีกลุ่มเป้าหมายหลายกลุ่ม เลยไม่รู้ว่าจะเลือกใช้กลุ่มไหนทำการตลาดดี
ทางออกที่ดีที่สุดคือการทำ Test หรือพูดง่ายๆ ก็คือการยิง Ad ออกไปหลายๆ ตัว
โดย set ค่าต่างๆ ให้ต่างกันตามแต่ละกลุ่มเป้าหมาย ไม่ว่าจะความสนใจ เพศ อายุ บริเวณที่อยู่
หรือแม้กระทั่งวันเวลาที่ยิง Ad ออกไปก็ได้ (ใส่เงินทีละน้อยๆ นะครับ ไม่อย่างนั้นระวังเสียเงินบาน)
จากนั้นก็เอา Report มาวิเคราะห์เปรียบเทียบดูว่า Ad ตัวไหนให้ผลดี ตัวไหนไม่เวิร์ค
Test จะช่วยให้คุณหากลุ่มเป้าหมายที่ตอบโจทย์ธุรกิจของคุณได้ดีที่สุด
แต่ถ้า Target ดันแคบเกินไปจนไม่มีใครเห็นล่ะ?
กรณี set ค่ากลุ่มเป้าหมายแล้ว แต่พอยิงออกไปดันไม่มีคนเห็นหรือมีคนเห็นน้อยเกินไป
นั่นเพราะ target ของคุณแคบเกินไปนั่นเองครับ แต่ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วงเลย
เพราะการที่ไม่มีคนเห็นก็เท่ากับคุณไม่ต้องเสียเงิน ดีกว่ากำหนดกว้างไปแล้วต้องเสียเงินไปเปล่าๆ ตั้งเยอะ
วิธีแก้ไขก็ง่ายๆ เพียงแค่ค่อยๆ ขยาย target ให้กว้างขึ้นทีละนิด (ทีละนิดนะครับ ไม่ต้องรีบร้อน)
แล้วก็ติดตามวิเคราะห์ผลลัพธ์ ถ้ายังแคบไปอีกก็ขยายออกอีกหน่อย
ทำแบบนี้เรื่อยๆ เพื่อหาจุดที่เหมาะสมที่สุดนั่นเองครับ
ทั้งนี้ทั้งนั้น สิ่งสำคัญคือต้องทดลองครับ ถ้าไม่ลองแล้วจะรู้ได้ไงว่าแบบไหนดีที่สุดสำหรับธุรกิจของคุณ จริงมั้ยละ?