อีกหนึ่งปัญหาที่พบเจอบ่อยในการเรียน Digital Marketing / Online Marketing
คือผู้ประกอบธุรกิจออนไลน์หลายท่านนั้นดูเหมือนจะไปได้ดีกับการทำตลาดบน Facebook
เพราะมียอดไลค์มากมายทั้งบนแฟนเพจหรือบนตัวโพสต์เอง
แต่ทั้งๆ ที่จำนวนคนกดไลค์มากมายขนาดนี้ ยอดขายกลับไม่เพิ่มขึ้นซะอย่างงั้น
วันนี้ผมจะพามาแก้ปัญหานี้กันครับ ตามมาดูกันเลย
1.เปลี่ยนการลงโฆษณามาเป็นรายวันดูบ้าง
สมมติว่าคุณกำหนดงบประมาณต่อเนื่องเฉลี่ยวันละ 300 บาท
ลองเปลี่ยนมาเป็นแบบรายวัน โดยยังวางงบเท่าเดิมดูนะครับ
ที่แนะนำให้ทำแบบนี้เพราะหากเป็นการซื้อ ads แบบต่อเนื่องหลายวัน
facebook จะค่อยๆ กระจายโฆษณาช้าๆ ทำให้คนเห็นไม่มาก
แต่เมื่อเป็นแบบรายวัน ระบบจะดันโฆษณาให้งบของคุณหมดเร็วที่สุด
นั่นหมายถึงโฆษณาของคุณจะพุ่งออกไปทีเดียวให้คนเยอะแยะได้เห็นนั่นเองครับ
2.Content ตอบโจทย์ทั้งสองฝ่ายแล้วหรือยัง
สาเหตุหลักที่ทำให้ like ของคุณเยอะแต่ยอดขายน้อยมักมาจาก content ที่พลาดเป้า
คือ content ถูกใจลูกค้า พวกเขาจึงกดไลค์ แต่มันกลับไม่สื่อถึงแบรนด์ของคุณ
ทำให้ลูกค้าได้เสพแต่ content ที่พวกเขาอยากอ่าน
แต่ไม่เกิดความอยากได้แบรนด์ของคุณเลนสักนิด
เทคนิคทำ content ที่ตอบโจทย์ทั้งสองฝ่ายคือต้องดูว่าคุณขายอะไร
ถ้าคุณขายรองเท้าผ้าใบ ตัวอย่าง content ที่ควรเขียน
คือเทรนด์รองเท้า sneaker ในปี 2017 หรือวิธีดูแลรักษารองเท้าให้ใหม่เสมอ
และอย่าลืมที่จะใส่รูปรองเท้าที่คุณขายลงไปด้วยนะครับ
3.จัดกิจกรรม หาหนทางพูดคุยกับแฟนเพจบ้าง
อย่าปล่อยให้เพจของคุณอุดมไปด้วยยอดไลค์แต่คอมเม้นหดหายเชียว
พยายามหากิจกรรมให้แฟนเพจได้ตอบคำถามชิงรางวัล
หรือจัดอีเว้นท์ หรือ Facebook Live บ้างเป็นบางครั้ง
การมีปฏิสัมพันธ์ พูดคุยทักทายลูกค้าบ้างเป็นบางโอกาส
จะช่วยลดช่องว่างระหว่างแบรนด์และลูกค้าลงไปได้มาก
และเมื่อเขาต้องการซื้อสินค้าชนิดเดียวกันกับที่คุณขาย
แบรนด์ของคุณจะถูกนึกถึงเป็นอันดับแรกๆ
4.ทำ Re-targeting กับแฟนเพจที่เคยมีปฏิสัมพันธ์กัน
Facebook มีฟังก์ชั่นให้คุณสามารถยิงโฆษณาไปหาคนที่เคยดูวีดีโอ
หรือเคยเข้าเว็บไซต์ของคุณมาก่อน ซึ่งเรียกการตลาดแบบนี้ว่า Re-targeting
หากลูกค้ากดชมวีดีโอ หรือเข้าชมเว็บไซต์ของคุณ
นั่นหมายความว่าพวกเขาให้ความสนใจกับแบรนด์คุณมาขั้นหนึ่งแล้ว
เพียงแต่ยังไม่ได้ตัดสินใจซื้อด้วยหลายๆ เหตุผล
ดังนั้นการทำ Re-targeting จะช่วยกระตุ้นให้พวกเขาหันมาสนใจ
และอยากจ่ายเงินให้กับแบรนด์ของคุณอีกครั้ง