ในการทำ Ads บน facebook นั้นเราเลือกได้ว่าต้องการจ่ายเงินตามผลลัพธ์แบบไหน โดยรูปแบบการจ่ายเงินที่นิยมใช้กันมี 2 แบบ คือ CPM และ CPC CPM (Cost Per Mille) คือต้นทุนต่อ 1,000 Impression หมายถึงเราจะต้องจ่ายเงินตามที่ตั้งไว้ เมื่อมี Impression หรือค่าการแสดงผลของโฆษณาครบ 1,000 ครั้ง ตัวอย่างเช่น ถ้าเรากำหนดมูลค่า CPM ไว้ 5 บาท พอโฆษณาแสดงผลบน new feed หรือคอลัมน์ด้านขวาเป็นจำนวน 1,000 ครั้ง เราก็จะต้องจ่ายให้ facebook 5 บาท และจะต้องจ่ายอีก 5 บาทเมื่อการแสดงผลเพิ่มเป็น 2,000 ครั้ง CPC (Cost Per Click) คือต้นทุนต่อ 1 คลิ๊ก คือจะเสียเงินก็ต่อเมื่อมีการคลิ๊กบนโฆษณานั่นเอง ตัวอย่างเช่น… Continue reading CPM / CPC ใน facebook คืออะไร อันไหนดีกว่ากัน
Tag: เรียน Online Marketing
เทคนิคเขียนโพสต์ Facebook ให้ขายได้
Facebook เป็นแพลตฟอร์มที่ผู้เรียน Online Marketing ส่วนใหญ่มักใช้เพื่อโปรโมทแบรนด์หรือทำธุรกิจ ซึ่งปัญหาที่เจอเหมือนๆ กันคือหลังจากซื้อ Ads Facebook ไปแล้วแต่ก็ยังขายไม่ได้ ทั้งๆ ที่ Reach กับ Impression ของโพสต์นั้นก็เยอะพอตัว แต่รู้ไหมครับ ว่าที่จริงแล้วยอดต่างๆ ที่ทาง Facebook คำนวนมานั้นไม่ใช่ตัวการันตีว่าเราจะขายได้ มันแค่บอกว่าโพสต์ของเราแสดงกี่ครั้ง หรือมีคนเห็นกี่คนก็เท่านั้น เช่นเดียวกัน คำว่าโพสต์ถูกเห็น ก็ไม่ได้หมายความว่าโพสต์จะถูกอ่าน หรือถ้าโพสต์ถูกอ่าน ก็ไม่ได้หมายความว่าสินค้าจะขายได้ วันนี้ผมจึงเอาเทคนิคเขียนโพสต์เพื่อกระตุ้นยอดขายมาให้ทุกท่านได้ลองเอาไปปรับใช้กัน จริงๆ แล้วเรื่องพวกนี้จะต้องอาศัยศาสตร์อย่างหนึ่งที่เรียกว่า “วาทศิลป์” หรือก็คือศิลปะการนำเสนอโน้มน้าวใจด้วยภาษาอย่างน่าสนใจนั่นเองครับ ต่างคนก็จะมีระดับทักษะตรงนี้ที่ต่างกันไป แต่เรื่องพวกนี้เรียนรู้กันได้ครับ ดังนั้นเรามาดูกันไปพร้อมๆ กันดีกว่า ก่อนอื่นผมจะต้องแบ่งส่วนประกอบของ Ads เป็น 2 ส่วนก่อนนะครับ นั่นก็คือ ส่วนของรูปภาพ และส่วนของ Text 1.รูปภาพ รูปภาพนี้เปรียบเหมือนประตูด่านแรกที่บอกว่าโพสต์ของคุณจะถูกอ่านหรือไม่ การเลือกภาพนั้นอย่างแรกเลยต้องสัมพันธ์กับเนื้อหา และตรงกับความสนใจของลูกค้า ต่อมาที่ขาดไม่ได้คือภาพต้องสวย หากเป็นภาพถ่ายคุณต้องคัดภาพที่ดีที่สุดมาลง หากเป็นภาพกราฟิกต้องแน่ใจว่ามันดูดีตามหลักสากล เพราะน่าสนใจพอที่จะทำให้คนหยุดอ่านได้ และที่สำคัญคือไม่ควรมีตัวหนังสือมากกว่า… Continue reading เทคนิคเขียนโพสต์ Facebook ให้ขายได้
5 วิธีแก้ปัญหา ไม่เจอเพจในช่อง facebook search
สำหรับผู้สนใจเรียน Digital Marketing หากคุณทำเพจ facebook อาจเคยเจอกับการที่เปิดเพจมาสักระยะ แต่พอ search ชื่อเพจในช่องค้นหาของ facebook กลับไม่เจอเพจของคุณ ซึ่งปัญหานี้นอกจากจะทำให้ผู้อื่นเข้ามายังเพจเป็นเรื่องยากแล้ว ยังส่งผลต่อภาพลักษณ์ของแบรนด์และยอดขายอีกด้วย วันนี้ผมจึงนำวิธีจัดการกับปัญหานี้มาฝากทุกท่านกัน มาดูไปพร้อมๆ กันเลยครับ 1.ชื่อเพจ นอกจากชื่อร้าน ชื่อแบรนด์แล้วอย่าลืมใส่ชื่อสินค้าของคุณด้วยนะครับ เพราะหลายครั้งที่ลูกค้ายังไม่รู้จักร้านเรา พวกเขาจะพิมพ์ชื่อสินค้าลงไปแทน อย่างเช่น “We Pet Boutique อุปกรณ์และอาหารสัตว์เลี้ยง” 2.คำอธิบายเชื่อมโยงกับชื่อเพจและคำค้นหา ในช่องที่ให้อธิบายร้านค้าหรือผลิตภัณฑ์ พยายามใส่คำที่เกี่ยวข้องกับชื่อเพจ และคำที่คิดว่าลูกค้าจะค้นหาบ่อยๆ เช่น ชื่อสินค้าหรือบริการ 3.รายละเอียดของเพจครบถ้วนชัดเจน รายละเอียดของเพจไม่ว่าจะเป็นข้อมูลการติดต่อต่างๆ รวมไปถึงการเลือกประเภทของเพจว่าเป็น Brand หรือ Local Business มีส่วนในการแสดงผลบนช่องค้นหาของผู้ใช้งาน facebook เพราะระบบจะนำข้อมูลตรงนี้มาวิเคราะห์ว่าใกล้เคียงกับสิ่งที่ผู้ค้นหาต้องการหรือไม่ เช่น สถานที่ตั้ง หากระบุไว้ใกล้เคียงกับที่ตั้งของผู้คนหา อันดับในการแสดงผลในช่อง search ก็จะสูงขึ้น 4.ใส่ keyword ทุกครั้งที่โพสต์ ทุกครั้งที่โพสต์อะไรก็ตามบนเพจ อย่าลืมที่จะใส่ Hashtag (#) และตามด้วย… Continue reading 5 วิธีแก้ปัญหา ไม่เจอเพจในช่อง facebook search
เพิ่มยอดติดตามบน Instagram ด้วยวิธีธรรมชาติ
ไม่ว่าคุณจะเรียน Digital Marketing มาหรือไม่ แต่ผมเชื่อว่าทุกคนน่าจะรู้กันดี ว่าการมียอดติดตามในบัญชี Instagram เป็นจำนวนมากย่อมทำให้แบรนด์ดูน่าเชื่อถือ ซึ่งมันจะส่งผลต่อหน้าตาแบรนด์และยอดขายในอนาคตอย่างแน่นอน จึงมีเจ้าของธุรกิจบน IG หลายท่านที่ตั้งหน้าตั้งตาหาวิธีปั๊มผู้ติดตามให้ได้สูงๆ ซึ่งแน่นอนครับว่าวิธีเหล่านี้จะช่วยให้คุณได้ Follower จริง แต่ยอดขายของคุณจะไม่เพิ่มตามจำนวนผู้ติดตามเหล่านั้น เพราะส่วนใหญ่ account เหล่านี้จะเป็นของปลอมที่ไม่มีผู้ใช้งานจริง หรือถ้ามีอยู่จริง ก็ไม่ใช่ผู้ที่สนใจในแบรนด์ของคุณ พูดง่ายๆ เลยก็คือ การปั๊มยอดฟอลจะไม่นำคนที่มีโอกาสเป็นลูกค้าในอนาคตมาให้คุณ จะดีกว่ามั้ยถ้าเราเพิ่มจำนวน follower ด้วยวิธีธรรมชาติ ถึงจะช้า แต่ได้พร้าเล่มงามแน่นอนครับ 1.โปรโมทผ่านช่องทางอื่นๆ ถ้าคุณมีแอคเคาท์ Social Media อื่นๆ ที่มีฐาน follwer อยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็น facebook, twitter, line หรืออะไรก็ตาม คุณก็สามารถเชื่อมต่อหรือประกาศให้กลุ่มเป้าหมายรู้ว่า คุณมี Instagram ที่เป็นช่องทางในการสื่อสารอีกหนึ่งทาง ไม่เพียงช่องทางออนไลน์เท่านั้น ช่องทางออฟไลน์อย่างการใส่แอคเคาท์ IG ลงไปบนนามบัตร หรือบนผลิตภัณฑ์ ก็ยังเป็นวิธีการที่ดีในการโปรโมทร้าน 2.ใช้ Hashtag ประโยชน์ของ… Continue reading เพิ่มยอดติดตามบน Instagram ด้วยวิธีธรรมชาติ
4 เหตุผลที่ทำ Re-Targeting แต่ก็ยังขายไม่ได้
ในการเรียน Digital Marketing สิ่งที่ต้องพูดถึงคือการตลาดแบบ Re-targeting ซึ่งก่อนหน้านี้ผมได้เขียนบทความเกี่ยวกับเรื่องนี้ไปบ้างแล้ว มันคือกลยุทธ์การตลาดแบบหนึ่งที่จะช่วยให้โฆษณาของคุณยิงไปหากลุ่มเป้าหมายได้ตรงยิ่งขึ้น แต่บางท่านที่ทำมาได้สักพักก็ยังเจอกับปัญหาเดิมๆ นั่นคือยังขายของไม่ได้ ทั้งๆ ที่กำหนดกลุ่มเป้าหมายเป็นคนที่เคยเข้าชมเว็บไซต์แล้วแท้ๆ วันนี้ผมจะมาอธิบายเหตุผล 4 ข้อว่าทำไมยอดขายของคุณจึงไม่เพิ่มขึ้น ลองอ่านดูนะครับว่าคุณเข้าข่ายหนึ่งในสี่ข้อนี้หรือเปล่า 1.หน้าเว็บที่คุณใช้เก็บกลุ่มเป้าหมายมีเนื้อหาไม่เกี่ยวกับสิ่งที่คุณเสนอขาย อย่างที่รู้ว่าหลักการทำ Re-targeting นั้น ก่อนจะเสนอขายคุณต้องเก็บกลุ่มเป้าหมายซะก่อน ซึ่งกลุ่มเป้าหมายก็คือคนที่เข้าชมเว็บไซต์ของคุณทั้งหมด หรือเพียงหน้าใดหน้าหนึ่ง ทีนี้มันจะเกิดปัญหาที่ทำให้สินค้าขายไม่ได้หรือขายไม่ได้เท่าที่ควร ในกรณีที่หน้าเว็บที่คุณใช้เก็บกลุ่มเป้าหมายนั้น มีเนื้อหาไม่ตรงตามสินค้าที่คุณเสนอขาย ยกตัวอย่างว่าคุณลง content เกี่ยวกับวิธีรักษาฝ้าในหน้าเว็บที่ใช้เก็บกลุ่มเป้าหมาย แน่นอนว่าคนที่เข้ามาอ่าน content จะต้องเป็นคนที่มีปัญหาเรื่องฝ้า แต่ถ้าเกิดคุณดันใช้กลุ่มเป้าหมายนี้ในการยิง Ads เรื่องครีมรักษาสิว ก็ไม่แปลกเลยครับว่าทำไมถึงขายไม่ได้ เบื้องต้นเป็นแค่กรณีที่ยกตัวอย่างขึ้นมาเฉยๆ นะครับ ผมแค่อยากให้คุณเช็คดูให้แน่ใจว่าเนื้อหาในเว็บไซต์ กับสิ่งที่คุณเสนอขายออกไปนั้นมีความสอดคล้องกันจริงๆ ไม่อย่างนั้นก็จะเป็นการสัญเสียค่าโฆษณาไปฟรีๆ เลยล่ะครับ 2.คุณกำหนดช่วงเวลาย้อนหลังไว้นานเกินไป ในการสร้าง Website Custom Audience คุณสามารถระบุได้ ว่าจะยิง Ads ไปหาคนที่เข้าเว็บของคุณมาแล้วไม่เกินกี่วัน โดยตามลิมิตของ Facebook ให้ไว้ไม่เกิน 180 วัน… Continue reading 4 เหตุผลที่ทำ Re-Targeting แต่ก็ยังขายไม่ได้
จะทำอย่างไรเมื่อเพจมีแต่ Like แต่ยอดขายยังเท่าเดิม
อีกหนึ่งปัญหาที่พบเจอบ่อยในการเรียน Digital Marketing / Online Marketing คือผู้ประกอบธุรกิจออนไลน์หลายท่านนั้นดูเหมือนจะไปได้ดีกับการทำตลาดบน Facebook เพราะมียอดไลค์มากมายทั้งบนแฟนเพจหรือบนตัวโพสต์เอง แต่ทั้งๆ ที่จำนวนคนกดไลค์มากมายขนาดนี้ ยอดขายกลับไม่เพิ่มขึ้นซะอย่างงั้น วันนี้ผมจะพามาแก้ปัญหานี้กันครับ ตามมาดูกันเลย 1.เปลี่ยนการลงโฆษณามาเป็นรายวันดูบ้าง สมมติว่าคุณกำหนดงบประมาณต่อเนื่องเฉลี่ยวันละ 300 บาท ลองเปลี่ยนมาเป็นแบบรายวัน โดยยังวางงบเท่าเดิมดูนะครับ ที่แนะนำให้ทำแบบนี้เพราะหากเป็นการซื้อ ads แบบต่อเนื่องหลายวัน facebook จะค่อยๆ กระจายโฆษณาช้าๆ ทำให้คนเห็นไม่มาก แต่เมื่อเป็นแบบรายวัน ระบบจะดันโฆษณาให้งบของคุณหมดเร็วที่สุด นั่นหมายถึงโฆษณาของคุณจะพุ่งออกไปทีเดียวให้คนเยอะแยะได้เห็นนั่นเองครับ 2.Content ตอบโจทย์ทั้งสองฝ่ายแล้วหรือยัง สาเหตุหลักที่ทำให้ like ของคุณเยอะแต่ยอดขายน้อยมักมาจาก content ที่พลาดเป้า คือ content ถูกใจลูกค้า พวกเขาจึงกดไลค์ แต่มันกลับไม่สื่อถึงแบรนด์ของคุณ ทำให้ลูกค้าได้เสพแต่ content ที่พวกเขาอยากอ่าน แต่ไม่เกิดความอยากได้แบรนด์ของคุณเลนสักนิด เทคนิคทำ content ที่ตอบโจทย์ทั้งสองฝ่ายคือต้องดูว่าคุณขายอะไร ถ้าคุณขายรองเท้าผ้าใบ ตัวอย่าง content ที่ควรเขียน คือเทรนด์รองเท้า sneaker ในปี 2017… Continue reading จะทำอย่างไรเมื่อเพจมีแต่ Like แต่ยอดขายยังเท่าเดิม
เรียน Digital Marketing เริ่มต้นซื้อโฆษณา Facebook ด้วยงบเท่าไหร่ดี
คำถามแรกๆ ที่ผู้เรียน Digital Marketing / Online Marketing สงสัยและถามกันมามาก คือเมื่อพวกเขาได้ตัดสินใจที่จะซื้อโฆษณา Facebook เพื่อโปรโมทแบรนด์ งบประมาณที่ใช้ควรกำหนดไว้สักเท่าไหร่ดี? ต้องบอกก่อนนะครับว่าไม่มีคำตอบตายตัว เพราะการซื้อ Ads นั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆ อย่าง ทั้งจำนวนคนที่เราต้องการให้โฆษณา ต้นทุน กำไร และงบประมาณในกระเป๋าของผู้ค้าด้วย แต่วันนี้ผมจะมาแนะนำแนวทางการตั้งงบประมาณ Ads สำหรับผู้เริ่มต้น เป็นวิธีกลางๆ ที่คิดว่าทุกท่านน่าจะนำไปปรับใช้ให้เหมาะกับตัวเองได้ โดยก่อนอื่นคุณต้องทำบัญชีร้านของคุณก่อน ต้องมองว่าคุณมีต้นทุนการผลิตเท่าไหร่ ตั้งกำไรไว้ขนาดไหน กำหนดจุดคุ้มทุนที่แน่นอน และตอบคำถามว่าต้องขายสินค้าได้กี่ชิ้นหลังจากซื้อ Ads ทีนี้คุณก็จะเริ่มมองออกว่าควรใช้เงินเท่าไหร่ในการลงทุนทำโฆษณาโดยไม่เดือดร้อน โดยเริ่มต้นคุณอาจจะตั้งงบไว้น้อยๆ ก่อน สักประมาณ 5-10% ของกำไรที่ตั้งไว้ เช่น ถ้าคุณตั้งเป้าว่าจะขายได้ 100,000 บาทภายใน 1 เดือน งบประมาณเพื่อทำ Ads คือ 5% ซึ่งเท่ากับ 10,000 บาทต่อเดือน หรือประมาณ 300 บาทต่อวัน บางคนถามถ้าซื้อไปแล้วแต่ไม่ได้ผล… Continue reading เรียน Digital Marketing เริ่มต้นซื้อโฆษณา Facebook ด้วยงบเท่าไหร่ดี
Re-Targeting คืออะไร เหมาะกับธุรกิจแบบไหน
ผู้ที่ยังไม่เคยเรียน Digital Marketing หรือยังใหม่กับเรื่องนี้ อาจจะไม่เคยได้ยินคำว่า Re-targeting กันมาก่อน แล้วมันคืออะไร? มีความสำคัญต่อผู้ทำ Online Marketing ขนาดไหน วันนี้เราจะไปดูพร้อมๆ กันครับ ความหมายของ Re-targeting คุณเคยเข้าเว็บขายของสักอย่าง แต่ไม่ตัดสินใจซื้อทันที แล้วโฆษณา banner หรือ ads facebook ของแบรนด์นั้น ก็โผล่ขึ้นมาให้คุณเห็นบ่อยๆ จนต้องกลับไปดูอีกรอบมั้ย นั่นแหละครับคือการทำงานของ Re-targeting ที่จะบันทึกข้อมูลการเข้าชมเว็บไซต์ของคุณในฐานะผู้สนใจสินค้า และโฆษณาของแบรนด์ก็จะย้อนกลับมาหาคุณเรื่อยๆ เพื่อตอกย้ำความสนใจคุณ จากตอนแรกที่ไม่ซื้อ พอเห็นมากเข้าก็เริ่มใจอ่อนจนต้องควักเงินให้กับสินค้านั้นไป หรืออย่างน้อยๆ ต่อให้ไม่ซื้อ คุณก็จะจำแบรนด์ได้เพราะมันโผล่ขึ้นมาบ่อยเหลือเกิน ข้อดีของการทำ Re-targeting แน่นอนว่ามันยิงเข้าเป้าได้ตรงกลุ่มมาก เพราะมันจะติดตามแต่คนที่เคยให้ความสนใจกับแบรนด์ของคุณจนถึงกับคลิ๊กเข้าชมเว็บไซต์ ระบบจะส่งโฆษณาไปกระตุ้นเตือนความจำให้พวกเขาไม่ลืมแบรนด์ของคุณ คล้ายเชิญชวนหน่อยๆ ว่า… เรามาอยู่ตรงนี้แล้ว จะไม่ซื้อจริงๆ หรอ? จึงไม่แปลกเลยครับว่าทำไมคนทำ E-Commerce ส่วนใหญ่จะใช้การตลาดแบบนี้กัน เหมาะกับธุรกิจแบบไหน เหมาะกับธุรกิจออนไลน์ที่มีเว็บไซต์ครับ เพราะอย่างที่บอกว่าจะต้องให้ลูกค้าเข้าเว็บเราก่อน เราถึงติดตามและยิงโฆษณาไปหาเขาได้ แต่สำหรับคนที่ทำการตลาดผ่านแพลตฟอร์มของ facebook… Continue reading Re-Targeting คืออะไร เหมาะกับธุรกิจแบบไหน